เสมาเพชร ลั่นไม่เกี่ยงเจอใครได้หมด หลังต้องเปลี่ยนคู่ชก – หวังเก็บชัยหาเงินให้แม่ช่วงปีใหม่

0
72

“ซ้ายฟ้าผ่า” เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” นักชกกำปั้นทรงพลัง วัย 29 ปี จากเชียงใหม่ พร้อมเดินหน้าไล่ล่าชัยชนะไฟต์ที่สองติดต่อกัน พบกับ “โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์” มวยสูงใหญ่วัย 26 ปี ที่ขันอาสาเข้ามาเสียบแทนคู่ชกเดิมอย่าง “ฟิลิปเป โลโบ” ซึ่งมีอาการบาดเจ็บจนต้องขอถอนตัวกะทันหัน โดยทั้งคู่จะวัดฝีมือกันในกติกามวยไทย แคตช์เวต 150 ป. ในศึก ONE Fight Night 17: โรมัน vs อเล็กซ์ ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค.นี้

โดยแรกเริ่มเดิมทีไฟต์นี้ “เสมาเพชร” มีคิวต้องเปิดศึกรีแมตช์ล้างตา กับคู่ปรับอย่าง “ฟิลิปเป โลโบ” ที่มีส่วนสูงไล่เลี่ยกัน เพื่อทวงเก้าอี้เบอร์สองของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) กลับคืนมา แต่เพราะการที่จอมบู๊จากบราซิลมีอาการบาดเจ็บจากการซ้อมจึงทำให้จำเป็นต้องถอนตัวไปในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนจะได้ “โมฮาเหม็ด” จากแอลจีเรีย เจ้าของส่วนสูง 188 ซม. ที่อาสาเข้าเวรแทนในฐานะคู่ชกใหม่

แม้ “เสมาเพชร” จะต้องยอมปรับรุ่นน้ำหนักจากเดิมที่จะต้องสู้ในรุ่นแบนตัมเวต มาเป็นแคตช์เวต 150 ป. แต่เขาก็โชว์สปิริตไม่คิดเกี่ยง เลือกตอบรับข้อเสนอสุดท้าทายเพื่อทำให้ไฟต์นี้เกิดขึ้นจริง

“ผมตัดสินใจตอบรับที่จะเจอกับ โมฮาเหม็ด ในไฟต์นี้ เพราะโดยปกติผมไม่ใช่คนเกี่ยงคู่ชกอยู่แล้วครับ รายการเสนอใครมาผมก็พร้อมสู้หมด และอีกอย่างถ้าเกิดผมเลือกที่จะไม่ชกไฟต์นี้ก็จะเสียโอกาสไปเปล่า ๆ ตอนนี้ใกล้จะสิ้นปีแล้วด้วย ผมก็อยากจะชกทิ้งทวนเก็บชัยชนะอีกสักไฟต์ จะได้มีเงินนำไปมอบให้กับคุณแม่ในช่วงปีใหม่ด้วยครับ”

แม้ไฟต์นี้ “เสมาเพชร” จะต้องเสียเปรียบทุกมิติ ไล่ไปตั้งแต่ส่วนสูงที่น้อยกว่าคู่ชกถึง 16 ซม. แถมยังต้องยอมปีนน้ำหนักขึ้นสู้ในพิกัด150 ป. เป็นครั้งแรก แต่เจ้าของหมัดซ้ายอันทรงพลังก็ไม่หวั่น เพราะมั่นใจในสภาพร่างกายอันแข็งแกร่งเกินร้อยของตัวเอง หลังเข้าเก็บตัวซ้อมหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา

“ตั้งแต่ชกมวยมา ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของผมที่ต้องเจอนักมวยรูปร่างสูงใหญ่ขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่ได้กลัว เพราะหลังจบไฟต์ล่าสุด ผมก็ไม่ได้พักปล่อยเนื้อปล่อยตัวอะไร เข้าค่ายเก็บตัวซ้อมหนัก ทำร่างกายมาโดยตลอด หยุดพักแค่วันอาทิตย์วันเดียว ทำให้สภาพร่างกายพร้อมเต็มร้อยอยู่ตลอดครับ”

เสมาเพชร

ด้วยเวลาเตรียมตัวรับมือกับ “โมฮาเหม็ด” ที่มีล่วงหน้าเพียงแค่ราว 10 วันเท่านั้น อีกทั้งยังไม่เคยเห็นนักชกรายนี้บู๊นวมเล็กมาก่อน ทำให้ “เสมาเพชร” ยังไม่สามารถวิเคราะห์ไปถึงจุดแข็งจุดอ่อน รวมถึงจังหวะจะโคนบนเวทีได้อย่างชัดเจนนัก แต่ตนขอเลือกใช้แผนเดิมที่เตรียมมาสู้กับ “ฟิลิปเป” คู่ชกเดิมแต่จะเพิ่มความรัดกุมในจังหวะป้องกันตัวเข้าไป แล้วค่อยไปปรับเปลี่ยนหน้างานบนสังเวียนอีกที

“ผมทราบว่าต้องเปลี่ยนคู่ชกประมาณวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมาครับ พอรู้ตัวว่าต้องเปลี่ยนคู่ชก ผมและทีมงานก็รีบทำการบ้านทันที ซึ่งจากที่ศึกษามา โมฮาเหม็ด เขาเป็นมวยฝีมือที่บู๊ได้ด้วย”

“ด้วยเวลาทำการบ้านที่มีไม่มากเท่าไหร่ และคลิปการชกของเขาก็หาดูได้ยาก ผมเลยเลือกที่จะใช้แผนเดียวกับที่เตรียมมาไว้เจอกับ ฟิลิปเป ก็คือจะเดินบู๊ เดินชน แจกหมัดเท้าเข่าศอกเต็มที่เหมือนเดิม แต่จะเพิ่มความรัดกุมให้มากขึ้น เพราะผมและทีมงานยังไม่รู้ว่า โมฮาเหม็ด เขาจะมาสไตล์ไหน เรายังไม่เคยเห็นเขาชกนวมเล็กมาก่อนด้วยครับ”

แม้งานนี้อะไรๆ จะดูกระชั้นชิดไปบ้าง แต่ “เสมาเพชร” ยืนยันว่าตนไม่มีความกังวลใจใด ๆ สำหรับการเจอกับมวยแทนคนนี้ เพราะมองว่าครั้งนี้จะเป็นการทดสอบศักยภาพตัวเองในการขยับออกมาชกนอกรุ่นน้ำหนักประจำ แต่ไม่ว่ายังไงในอนาคต ตนก็ต้องโคจรกลับไปเปิดศึกกับ “ฟิลิปเป” ภาคสอง เพื่อแย่งชิงเก้าอี้แรงกิงเบอร์สองกลับคืนอยู่ดี

“ไฟต์นี้ไม่ได้กังวลอะไรครับ เพราะเราออกมาชกนอกรุ่นน้ำหนักของเรา ผมมองว่าไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ชนะหรือแพ้มาก็ไม่น่าจะส่งผลอะไรต่อแรงกิงในรุ่นแบนตัมเวตของผม แถมยังเป็นการเรียกฟอร์ม เพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้นด้วย ก่อนจะไปเจอกับ ฟิลิปเป ในอนาคตเพื่อทวงเก้าอี้แรงกิงของผมกลับคืนมา”

บทความก่อนหน้านี้โปรแกรมมวย ศึกมวยไทยพลังใหม่ วันพุธที่ 6 ธันวาคม 2566
บทความถัดไปโปรแกรมมวย ศึกเพชรยินดี วันพฤหัสบดีที่ 7 ธันวาคม 2566

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่