นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด (GSV) ประธานรายการ RWS – Rajadamnern World Series กล่าวว่า ในปี 2024 ในศึก RWS ยังมีการเพิ่มโปรเจกต์ RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ที่จะเป็นการมอบเงินรางวัลให้กับคู่มวยที่ถูกมองว่ายิ่งใหญ่ระดับซูเปอร์ไฟต์ที่แฟนๆรอคอย โดยเงินรางวัลสูงสุดมากกว่า 1 ล้านบาท ไม่รวมค่าตัว โดยมีกติกาว่าชนะคะแนนได้แน่นอน 500,000 บาท หากชนะน็อกก็จะได้รับเงินเพิ่มเป็น 1,000,000 บาท แต่ถ้าไม่มีการน็อกเอาต์เกิดขึ้น และทั้งคู่ชกกันได้ดุเดือดเข้าตาก็จะได้โบนัสเพิ่มไปอีกคนละ 250,000 บาท
ในปี 2025 RAJADAMNERN STADIUM CHAMPIONSHIP SUPERFIGHT ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม แต่ที่จะเพิ่มเข้ามาเป็นไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันคือ จะมีการจัดชิงเข็มขัดแชมป์ราชดำเนินทุกสัปดาห์ นอกจากได้เข็มขัดแชมป์แล้วยังมีเงินรางวัลติดปลายนวมด้วยดังนี้ ผู้ชนะจะได้เงินรางวัลสำหรับผู้ชนะ 150,000 บาททันที ถ้าชนะน็อกจะได้เพิ่มอีก 200,000 บาท และไม่ว่าจะเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะ ถ้าชกได้ดี มีการออกอาวุธอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง แสดงจิตวิญญาณนักสู้ที่อยากจะคว้าชัยชนะ นักชกคนนั้นจะได้รับรางวัลชกดุเดือดมูลค่า 100,000บาทด้วย

นอกจากนั้นแล้วการแข่งขันในศึก RWS ในปี 2025 ที่จัดขึ้นในทุกวันเสาร์นั้น ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นก็คือแฟนมวยจะได้ชมการแข่งขันชิงเข็มขัดแชมป์ราชดำเนินในทุกสัปดาห์ และเวลาในถ่ายทอดสดผ่านทางทางทีวีเวิร์คพอยท์ช่อง 23 และมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง ดะโซน (DAZN) สตรีมมิ่งคอนเทนต์กีฬายักษ์ใหญ่ โดยถ่ายทอดสดไปกว่า 200 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลกนั้น แต่เดิมเริ่มถ่ายทอดสดเวลา 21.15 น. นับแต่นี้ไป จะปรับเวลาการถ่ายทอดสดใหม่เริ่มต้นเวลา 20.05 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มกราคมเป็นต้นไป โดยจะได้ชมทั้งคู่ซูเปอร์ไฟต์และมวยระดับบิ๊กเนมมากมายให้รอติดตาม
“คุณแบงค์” กล่าวต่ออีกว่า การเติบโตของเวทีราชดำเนินในปีที่ผ่านมามองเห็นพัฒนาการแบบก้าวกระโดด เพราะจำนวนผู้ชมปีที่แล้วทั้งแฟนมวยไทยและแฟนมวยต่างชาติที่เข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่ขอบสนามคิดเป็นตัวเลขรวมกันกว่า 300,000 คน และเชื่อว่าในปีนี้ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นทำลายสถิติเดิมได้แน่นอน
“นอกจากนั้นแล้ว Rajadamnern Immersive Muay Thai ซึ่งการแสดงแสง สี เสียง อันตระการตาบนโดมคอนกรีตเหนือเวทีที่ได้เปิดตัวครั้งแรกไปแล้วในรายการฉลองวันเกิดสนามราชดำเนิน ก็จะช่วยดึงดูดแฟนมวยทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาสัมผัสด้วยตาตัวเองมากขึ้น