“บิ๊กบางจาก” ประกาศไทยได้สิทธิเจ้าภาพคัดเลือกมวยสากลสู่ “ปารีสเกมส์” ครั้งสุดท้ายที่ กรุงเทพ กำหนดจัดกลางปีหน้า ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ส่วนครั้งที่ 2 เป็นประเทศอิตาลีได้รับเลือก โดย “บิ๊กอ๋อย” เผยด้วยความร่วมมือจากคีย์แมนกีฬาไทยทุกฝ่าย จึงปาดหน้าหลายชาติในเอเชียที่เสนอตัวแย่งชิงการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้
“บิ๊กบางจาก” นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันมวยสากล โอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (พีบียู) ได้ประกาศให้กรุงเทพ เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคัดเลือกมวยสากล ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ในครั้งที่ 3 ครั้งสุดท้าย ระหว่างวันที่ 23 พค. – 3 มิ.ย. 67 มีจำนวนที่เหลือนักมวยชายหญิง 51 คน โดยกำหนดแข่งขันที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก
ส่วนการคัดเลือกครั้งที่ 2 ได้แก่ เมืองบุสโตอาร์ซิซิโอ้ ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 29 ก.พ.- 12 มี.ค. 67 จำนวนนักมวยชายหญิง 49 คน
สำหรับการคัดเลือกที่ไทยเป็นเจ้าภาพ จะมีนักมวยทั่วโลกร่วมชิงชัยอย่างเข้มข้น ภายใต้งบประมาณจัดการแข่งขัน 60 ล้านบาท ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) และกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ก็พร้อมร่วมการสนับสนุนเพื่อผลักดันนักมวยไทยสู่โควตา “ปารีสเกมส์” ให้มากที่สุด เพื่อสร้างความสุขให้กับแฟนกีฬาไทยทั้งประเทศ
ด้าน “บิ๊กอ๋อย” พลตำรวจโทชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมมวยสากลฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีหลายชาติที่เสนอตัวแย่งชิงการเป็นเจ้าภาพ เช่น คาซัคสถาน อย่างไรก็ตาม มีการพิจารณาความเหมาะสมในรอบด้าน เช่น มาตราฐานในการจัดแข่งขัน, ความร่วมมือของประชาชนในชาตินั้น ๆ ทั้งนี้ การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของไทยประสบความสำเร็จ ด้วยความทุ่มเทของ นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมฯ ในฐานะประธานสหพันธ์มวยสากลแห่งเอเซีย ที่มีสานสัมพันธ์ที่ดี ร่วมทั้งการผลักดันจาก พลเอกประวิทย์ วงศ์สุวรรณ และพลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยาประธาน และรองคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ตลอดจน คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซี.ประจำประเทศไทย และดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท.จนประสบความสำเร็จ
“แม้จะต้องแบกรับงบประมาณจัดการแข่งขันที่สูง แต่เพื่อความหวังในการเข้ารอบของนักชกไทย เพื่อไปสู่เหรียญในปารีสเกมส์” เลขาธิการสมาคมมวยสากลฯ ระบุในตอนท้าย
