เปิดประวัตินักมวย! “แสงมณี ส.กาแฟมวยไทย” เรื่องราวน่าสนใจ ที่หลายคนไม่รู้มาก่อน

นักมวยที่มีชื่อเสียงอีก 1 คนที่น่าสนใจ เขาคนนี้คือ แสงมณี ส.กาแฟมวยไทย หรือเรียกกันว่า นายพงศกร สิทธิเดช ชื่อเล่น บอล เกิดวันที่ 20 มีนาคม พุทธศักราช 2540 อายุ 23 ปี โดยถิ่นฐานบ้านเกิดของเขาอยู่ที่บ้านเลขที่ 298/10 อ.มัญจาคีรี จ.ขอนเเก่น

0
2802

นักมวยที่มีชื่อเสียงอีก 1 คนที่น่าสนใจ เขาคนนี้คือ แสงมณี ส.กาแฟมวยไทย หรือเรียกกันว่า นายพงศกร สิทธิเดช ชื่อเล่น บอล เกิดวันที่ 20 มีนาคม พุทธศักราช 2540 อายุ 23 ปี โดยถิ่นฐานบ้านเกิดของเขาอยู่ที่บ้านเลขที่ 298/10 อ.มัญจาคีรี จ.ขอนเเก่น

บอลเป็นบุตรของคุณพ่อหนูกัน คุณแม่เพ็ญศรี สิทธิเดช เจ้าบอลเกิดในครอบครัวที่ทำอาชีพเกษตรกร มีฐานะค่อนข้างยากจน บ้านของเจ้าบอลไม่มีห้องน้ำ ไม่มีไฟฟ้าใช้เหมือนบ้านอื่น ๆ เขา จะเข้าห้องน้ำแต่ละทีก็ต้องขออาศัยห้องน้ำของเพื่อนบ้าน ขอต่อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านมาใช้ในบ้านของตัวเอง นอกจากอาชีพเกษตรกรที่ทำอยู่นั้นรายได้ไม่พอใช้จ่ายในครอบครัว พ่อของเจ้าบอลก็ยังได้ชกมวยเป็นอาชีพเสริม เพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวอีกทางหนึ่ง

เจ้าบอลอายุได้ 6 ขวบ ก็เริ่มหัดมวยกับคุณพ่อของเขา แต่คุณพ่อของเขายังไม่ให้ขึ้นชก เพราะเขาอายุยังน้อยอยู่ ทำได้แค่ตามไปดูคุณพ่อชกมวยตามงานต่าง ๆ ที่คุณพ่อของเขาขึ้นชก พอตอนเจ้าบอลอายุได้ 7 ขวบ คุณพ่อของเจ้าบอลก็ได้จับเจ้าบอลขึ้นชกมวยเป็นครั้งแรก ซึ่งในการชกครั้งนี้ เจ้าบอลได้รับค่าตัว 200 บาท ซึ่งเจ้าบอลดีใจมาก ที่สามารถหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ เจ้าบอลได้ให้คำสัญญากับคุณพ่อของเขาไว้ว่า “ผมจะชกมวยเลี้ยงครอบครัว” นี่คือคำสัญญาของเด็กน้อยคนนึงที่ให้กับพ่อของเขาไว้

หลังจากนั้นเจ้าบอลก็ได้ตระเวนชกมวยไปเรื่อย ๆ ตามแถบภาคอีสาน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ขยันซ้อม และมีระเบียบวินัย เลยทำให้เจ้าบอลมีฟอร์มการชกที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ พอเจ้าบอลอายุได้ 8 เกือบ 9 ขวบ คุณพ่อของเขาได้พาเขาตระเวนชกล่าเดิมพันทางภาคอีสาน แทบทุกจังหวัด และเจ้าบอลก็ไม่เคยทำให้คุณพ่อผิดหวังแต่อย่างใด เวลาเจ้าบอลมีรายการชกที่ไหน ทางคุณพ่อคุณแม่ก็จะตามไปลุ้น ไปเชียร์ ไปให้กำลังใจลูกชายคนนี้ตลอด ถือว่าเป็นครอบครัวนักมวยเลยก็ว่าได้ เจ้าบอลกินเดิมพันมานับไม่ถ้วนทางแถบภาคอีสาน ในพิกัดเดียวกันแทบจะหาคู่ชกไม่ได้ จนได้ฉายาที่แฟนมวยทางภาคอีสานตั้งให้นั่นก็คือ “ยอดไอ้แอ็ดเดินสาย”

หลังจากนั้นชื่อของเจ้าบอลก็เริ่มเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น จนชื่อของเจ้าบอลไปเข้าหู พล.ต.อ.เสวก ปิ่นสินชัย โปรโมเตอร์เจ้าของรายการ “ศึกอัศวินดำ” ซึ่งเวลานั้นทางโปรโมเตอร์กำลังจะจัดมวยรอบชุดทารกเงินล้านอยู่พอดี จึงได้นำเจ้าบอลมาชกในมวยรอบครั้งนี้ด้วยเช่นกัน แน่นอนละครับมวยรอบชุดทารกเงินล้าน ล้วนแล้วก็มีแต่ยอดไอ้แอ็ดของแต่ละภาคในมวยรอบครั้งนี้ แต่เจ้าบอลก็ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวัง ด้วยการคว้าแชมป์มวยรอบทารกเงินล้านมาครองได้สำเร็จ และได้รับเงินรางวัลในมวยรอบครั้งนี้ จำนวนเงินประมาณ 1,200,000 บาท ขณะที่เจ้าบอลมีอายุแค่เพียง 10 ขวบเท่านั้น หลังจากที่ได้แชมป์มวยรอบทารกเงินล้านแล้ว เจ้าบอลได้ชกตามเวทีเมืองกรุงได้สักระยะหนึ่ง ก็มีปัญหากับทางโปรโมเตอร์ คุณพ่อของเจ้าบอลจึงได้พาเจ้าบอลกลับไปตระเวนชกตามภูธรอีกครั้ง

เจ้าบอลตระเวนชกมวยภูธรในครั้งนี้นานพอสมควร จึงทำให้ชื่อเสียงในเมืองกรุงนั้นค่อย ๆ จางหายไป หลังจากนั้นคุณพ่อของเจ้าบอล ได้พาเจ้าบอลไปฝากไว้กับ พัน.ต.ท สุทธิชัย เทียนโพธิ์ ให้เป็นผู้ดูแล เจ้าบอลได้ทำการฟิตซ้อมที่ค่ายมวย 13 เหรียญ พระรามเก้าของคุณสมชาย นิติวนกุล มีแสนชัย ส.คิงส์สตาร์ เป็นเทรนเนอร์ผู้ฝึกสอน ชื่อของเจ้าบอลก็กลับมาคุ้นหูแฟนมวยในเมืองกรุงอีกครั้ง การกลับเข้าสู่เวทีเมืองกรุงครั้งนี้ ดูเหมือนจะไปได้ไกลกว่าเดิม เจ้าบอลได้พิสูจน์ให้แฟนมวยได้เห็นแล้วว่า เขาคือยอดมวยเบอร์ต้น ๆ ของประเทศ ด้วยการคว้ายอดมวย 2 เวที ตอนอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น เป็นนักมวยคนแรกในประวัติศาสตร์วงการมวยเมืองไทย ด้วยการคว้า 4 แชมป์
ในเวลาเพียง 10 เดือน โดยได้แชมป์ลุมพินี 1 รุ่น ราชดำเนิน 3 รุ่น ถือว่าเป็นนักมวยเงินแสนที่อายุน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นฝีมือของเจ้าบอล ได้ไปเข้าตาของสมาคมมวยสากลสมัครเล่น ทางสมาคมจึงได้ทาบทามให้เจ้าบอลมาชกมวยสากลสมัครเล่นในเวลาต่อมา ในการชกมวยสากลของเจ้าบอลนั้น ก็ไม่ทำให้ทางสมาคมผิดหวัง ด้วยการคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ และได้เก็บตัวเข้าแคมป์ทีมชาติในเวลาต่อมา

ในเส้นทางมวยสากลของเจ้าบอลนั้น ดู ๆ แล้วมันไม่ใช่ทางของเขา เจ้าบอลเลยตัดสินใจกลับมาชกมวยไทยอีกครั้ง ซึ่งในการชกมวยไทยของเจ้าบอลครั้งนี้ เวลาเจ้าบอลมีรายการชกที่ไหน ก็จะมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในโรงเรียนตามมาเชียร์ มาให้กำลังใจเจ้าบอลตลอด จนแฟนมวยได้ตั้งฉายาให้เจ้าบอลว่า “ขวัญใจนักเรียน” และเรียกติดปากกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ หลังจากที่เจ้าบอลคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วน ก็เริ่มมีเงินเก็บ มีทรัพย์สินจากการชกมวยมากพอสมควร จนสามารถเปิดค่ายมวยเป็นของตัวเองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีสำหรับตัวเจ้าบอลเอง คือ เป็นนักชกอิสระ ไม่ต้องขึ้นตรงกับสังกัดไหน ทำให้เจ้าบอลสามารถชกได้ทุกศึก ทุกสาย ที่โปรโมเตอร์ติดต่อมา ในการขึ้นชกของเจ้าบอลในแต่ละไฟต์ เจ้าบอลรับค่าตัวอยู่ที่ 100,000-300,000 บาทเลยทีเดียว ถ้าไฟต์ไหนที่ไปต่อยต่างประเทศ ก็จะรับค่าตัวอยู่ที่ 400,000-500,000 บาท ล่าสุดเจ้าบอลได้ย้ายไปอยู่กับเสี่ยใหญ่ ใจแม่น้ำ อย่างเสี่ยสมาน บุญยอ เจ้าของค่าย ส.สมานกาเม้น หรือ ส.กาแฟมวยไทย ในปัจจุบัน ใครจะคิดล่ะครับว่าจากเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง ที่ฐานะทางบ้านยากจน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีห้องน้ำให้เข้าเหมือนบ้านอื่น ๆ มาถึงวันนี้เจ้าบอลมีครบพร้อมทุกอย่าง และเจ้าบอลยังได้ทำตามสัญญาที่เคยได้ให้ไว้กับคุณพ่อของเขาได้สำเร็จ

ทุกวันนี้เวลาเจ้าบอลมีรายการชกมวยที่ไหน ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ก็จะตามไปเชียร์ ไปให้กำลังใจ ทุกไฟต์ที่เจ้าบอลขึ้นชก ถ้าจะนับเข็มขัดแชมป์เปี้ยนของเจ้าบอลนั้น กล้าพูดได้เต็มปากเลยล่ะครับว่านับหลงกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ในประเทศ หรือต่างประเทศ เรียกได้ว่าเป็นนักมวยที่มีพร้อมทุกอย่าง ณ เวลานี้ แต่เอ๊ะ !! ยกเว้น คนรู้ใจ สาว ๆ คนไหนอยากมีแฟนเป็นนักมวย รีบ ๆ นะครับ เดี่ยวหาว่าไม่บอก

แล้วในคลิปหน้าเราจะพาคุณไปรู้จัก และเปิดประวัติกับนักมวยคนไหน รอติดตามกันได้เลยครับ

ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เพิ่มเติม

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมทาง เพจR1Fight

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมทาง Youtube

บทความก่อนหน้านี้เดือดสุด! “ปาเกียว” ประกาศ ตั้งรางวัลนำจับ คดีนางงามฟิลิปปินส์เสียชีวิต
บทความถัดไป“น้องเบส” สุดทนเจอคนว่า “นมอนุบาล-บ้านนอก-จน” หรือจะลืมเช็กเงินในกระเป๋า

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่