“แรมบ๊อง ส.เถระพัฒน์” นักสู้ขาลุย วัย 28 ปี จากลำพูน ได้เพื่อนรัก “ก้องธรณี ส.สมหมาย” มาช่วยซ้อมเข้ม ก่อนออกล่าชัยไฟต์ที่ 8 ติดต่อกัน ด้วยการปราบคู่ปรับเก่า “สุริยันต์เล็ก พ.เย็นยิ่ง” นักชกหมัดโหดวัยเดียวกันจากมหาสารคาม ที่เคยชกกันมาแล้วถึง 3 ครั้ง และในภาคที่ 4 นี้ ทั้งคู่จะสู้กันภายใต้กติกามวยไทย 132 ป. ในฐานะคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 115 ที่จะถ่ายทอดสดไปสู่ 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 4 ก.ค. นี้
“แรมบ๊อง” คืออีกหนึ่งในนักมวยกะเหรี่ยงใจสู้หลายๆ คนจากภาคเหนือ ที่เลือกทิ้งบ้านเกิดเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อไล่ล่าความฝันสู่การเป็นนักมวยเงินแสน แต่ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน เขาก็ไม่เคยเฉียดความสำเร็จที่วาดฝันเอาไว้ และเคยถึงขั้นเกือบจะตัดสินใจหันหลังให้วงการมวย เพื่อกลับไปหางานทำที่จังหวัดลำพูน
อย่างไรก็ตาม การถือกำเนิดของรายการ ONE ลุมพินี ในช่วงต้นปี 2566 ที่เน้นตัดสินด้วยอาวุธมวยไทยล้วนๆ โดยไม่ยึดติดกับหน้าเสื่อและการพนัน และมีโบนัส 3.5 แสนบาท เป็นของรางวัลให้แก่นักสู้ใจปิดเกม ได้จุดประกายให้ “แรมบ๊อง” ตัดสินใจหันหน้ากลับมาสู้ต่ออีกครั้ง
เมื่อได้รับโอกาสให้เข้ามาชกในรายการ ONE ลุมพินี “แรมบ๊อง” ก็ไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดลอย งัดหัวใจนักสู้และลูกบู๊อันดุดันออกมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถพลิกชีวิตได้สำเร็จจากการกวาดโบนัสเข้าบัญชีไปมากถึง 4 ครั้ง รวมเป็นเงินรางวัลกว่า 1.4 ล้านบาท (หนึ่งล้านสี่แสนบาท) ซึ่งยังไม่รวมค่าตัวที่ขึ้นชกมาแล้วทั้งหมด 10 ไฟต์
“ผมเข้ามาชกในกรุงเทพ ตั้งแต่อายุ 15 ปีครับ มีเป้าหมายอยากจะพลิกชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวให้ดีขึ้น แต่ผมเป็นมวยที่ไม่มีเหลี่ยมมีทรงเท่าไหร่ มีแค่พละกำลังกับหัวใจนักสู้ ทำให้ผลงานขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ค่าตัวก็ได้ไม่เยอะครับ พอหักค่าใช้จ่ายแล้ว แทบไม่พอใช้ในแต่ละเดือน”
“ผมดีใจมากที่มีรายการ ONE ลุมพินี เกิดขึ้นมา เพราะช่วยให้นักมวยหลายคนมีชีวิตที่ดีขึ้น ตอนนี้ผมชกในรายการมาได้ประมาณ 2 ปีกว่า ก็สามารถเก็บเงินค่าตัวกับโบนัสรวมกันเกินล้านแล้ว ไม่เคยคิดเลยว่าการชกมวยจะทำให้มีรายได้ขนาดนี้ และยังทำให้ผมได้ทำตามความฝัน เปิดค่ายมวยเป็นของตัวเอง ชื่อค่ายแรมบ๊องมวยไทย ที่เชียงใหม่ ด้วยครับ”
ในไฟต์ที่ 11 ของ “แรมบ๊อง” เขาจะได้ขึ้นสังเวียนเป็นคู่เอกนำรายการครั้งแรก โดยพบกับคู่ปรับจอมแสบอย่าง “สุริยันต์เล็ก” ที่เคยดวลเดือดกันมาแล้ว 3 ครั้งในกติกามวยไทย 5 ยก นวมใหญ่ ซึ่ง “แรมบ๊อง” สามารถคว้าชัยชนะไปได้เพียงครั้งเดียวในการเจอกันภาคแรก และในภาคที่ 4 ครั้งนี้ ทั้งคู่จะต้องมาซัดกันภายใต้กติกามวยไทย 3 ยก นวมเล็ก เป็นครั้งแรก
“3 ครั้งที่เคยเจอกันมา เราแลกอาวุธกันสนุกทุกไฟต์ครับ แต่ผมพลาดมากกว่าเลยทำให้เคยโดนนับและโดนน็อกมา แต่ครั้งนี้เจอกันในรูปแบบมวยไทย 3 ยก นวมเล็ก ผมว่ารูปเกมจะยิ่งมันกว่าเดิม เพราะทั้งผมและ สุริยันต์เล็ก ต่างมีสไตล์การชกที่เข้ากับรูปแบบรายการ ONE ลุมพินี มาก และผมเชื่อว่าโอกาสจบไม่ครบยกมีสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์เลยครับ”
การเตรียมความพร้อมสำหรับไฟต์นี้ของ “แรมบ๊อง” บอกได้คำเดียวว่าเด็ดเกินคำบรรยาย เพราะได้ 2 ยอดฝีมืออย่าง “ก้องธรณี ส.สมหมาย” นักสู้เพื่อนรักเจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) และ “นน บุญจำนงค์” อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ ปี 2540 และ 2544 เข้ามาช่วยลับคมทักษะรอบด้าน จนส่งผลให้ตอนนี้ “แรมบ๊อง” เข้าสู่สภาวะร่างทองเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมล่าแต้มชัยชนะไฟต์ที่ 8 ติดต่อกันมาครอง
“ไฟต์นี้ผมเก็บตัวซ้อมที่ค่ายแรมบ๊องมวยไทย ของตัวเองครับ โดยมี พี่นน ที่เปิดยิมอยู่ข้างๆ กัน เข้ามาช่วยติวหมัดให้และจะมาเป็นพี่เลี้ยงให้ด้วย นอกจากนี้ยังมี ก้องธรณี เข้ามาช่วยซ้อม พร้อมทั้งให้คำแนะนำย้ำให้ผมมีสติ มองหาช่องโจมตีแม่นๆ และหาจังหวะปิดเกมให้ได้ ห้ามไปแลกมั่วกับ สุริยันต์เล็ก เด็ดขาด”
“ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้ ก้องธรณี มาช่วยซ้อมให้ เพราะช่วงหลังเราอยู่กันคนละที่ทำให้ไม่ค่อยได้เจอกัน ซึ่งความสำเร็จของเขาเป็นแรงบันดาลใจของผม หวังว่าสักวันหนึ่งจะตามรอยไปเป็นนักกีฬาระดับโลกแบบเขาได้บ้างครับ”
นอกจากเป้าหมายการทำคะแนนตีตื้นคู่ปรับเก่าให้ได้แล้ว “แรมบ๊อง” ยังถือว่าไฟต์นี้จะเป็นบททดสอบครั้งสำคัญที่เขาจะต้องพิสูจน์ฝีมือว่าพร้อมไปต่อไกลได้ไกลกว่านี้ได้หรือไม่
“ไฟต์นี้ ยกแรกผมจะรอดูเชิงก่อนว่า สุริยันต์เล็ก เขาจะมาไม้ไหน ถ้าเขาเปิดแลกเลยผมก็พร้อมครับ แต่จะสู้อย่างมีสติ ถ้าเรื่องความหนัก ผมมั่นใจว่าไม่เป็นรองเหมือนกัน ผมมีของดีที่ซ้อมมาเพื่อไว้ใช้ปิดเกม แต่จะเป็นลูกไหนและทำได้ไหมต้องอยู่ที่จังหวะบนเวที อยากให้ทุกคนรอติดตามกันครับ”
“ไฟต์นี้มีความสำคัญสำหรับผมมาก เพราะการได้เจอกับ สุริยันต์เล็ก รอบนี้จะเป็นทดสอบว่าผมสามารถก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้นได้หรือเปล่า ซึ่งผมพร้อมจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผมมีดีพอที่จะเป็นนักสู้ระดับโลกเหมือนกัน ตอนนี้ผมมาไกลมากแล้ว ผมจะคว้าชัยชนะไฟต์ที่ 8 ติดต่อกันให้ได้ เพื่อความฝันในการคว้าสัญญา ONE มาครองครับ”
สำหรับ “แรมบ๊อง vs สุริยันต์เล็ก” ศึก ONE ลุมพินี 115 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันศุกร์ที่ 4 ก.ค.นี้ แฟนกีฬาการต่อสู้ชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น.
