เฟี้ยว ไม่พลาดฉลุยเข้า 16 คน – หลานสมจิตร โดนชั้นเชิง โดมินิกัน เล่นงาน ตกรอบ โอลิมปิก

0
116

การแข่งขันมวยสากล โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่นอร์ธ ปารีส อารีนา ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 27 ก.ค. รอบแรก หรือ 32 คน  รุ่น 54 กิโลกรัมหญิง “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ ขึ้นเวทีดวลกับ ซารา เซอร์โควิช จากเซอร์เบีย

ผลปรากฏว่าตลอด 3 ยก “เฟี้ยว” จุฑามาศ เป็นฝ่ายไล่ต้อนนักชกเซอร์เบีย และทำอาวุธเข้าเป้าชัดเจนกว่า ก่อนครบยกกรรมการจะยกมือให้ “เฟี้ยว” ชนะไป 4-1 เสียง ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนไปพบกับ เบอร์ตัล วิดัด จากโมร็อกโก

หลังจบการแข่งขัน จุฑามาศ กล่าวว่า วันนี้ตื่นเต้นเพราะชกเป็นคนแรก ซึ่งพอชกคนแรกๆ ยังมองทางกรรมการไม่ออกว่าจะตัดสินแบบไหนเลยกังวลเล็กน้อย แต่ก็พยายามทำหน้าที่ตัวเองให้เต็มที่ ยกแรกคิดว่าคะแนนน่าจะ 3-2 แต่พอได้มา 4-1 ก็โล่งขึ้น รู้ว่ากรรมการมองแบบต่อยชัดเจนถึงจะให้คะแนน

“รอบหน้าเจอกับโมร็อกโกซึ่งซ้อมมาด้วยกัน ก็ลุยเต็มที่เหมือนเดิม ค่อยๆ ไปทีละช็อต คู่แข่งเป็นคนสูงกว่า มีหมัดหน้าน่ารำคาญเล็กน้อยแต่ไม่แม่นเท่าไหร่” จุฑามาศ กล่าว

เมื่อถามถึงโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่สองต่างจากครั้งแรกหรือไม่นั้น เจ้าเฟี้ยว กล่าวว่า ต่างกันเยอะ รอบนี้รู้สึกนิ่งกว่า รอบก่อนยังตื่นเวทีเล็กน้อยเพราะเป็นน้องใหม่ ยังทำตัวไม่ถูก แต่ครั้งนี้เราเก็บเกี่ยวประสบการณ์มา รู้ว่าจะต้องทำแบบใด

ส่วน พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสต๊าฟโค้ชทีมกำปั้นหญิงเผยว่า สำหรับคู่แข่งรายนี้ที่เราเอาชนะมาได้ ก็เก็บตัวอยู่ในเทรนนิ่งแคมป์ กับเราก่อนมาแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ก็ทำให้พอจะเห็น ฟอร์มการชกมาบ้าง เขาชนะนักชกทีมซีของเราได้ก็จริง แต่เป็นมวยที่เพิ่งขึ้นมาจากระดับเยาวชน ก็ทำให้ไม่มีประสบการณ์ ในการแข่งขันเวทีใหญ่ๆมากนัก 

“ส่วนคู่แข่งในรอบ 16 คน นักกีฬาจากโมร็อคโก เราก็เห็นฟอร์มของเขาเป็นอย่างดี เพราะเก็บตัวอยู่ในเทรนนิ่งแคมป์เหมือนกับเรา เป็นเวลา 10 วัน แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสลงนวมด้วยกัน เป็นแค่การเข้าคู่ซ้อมกันปกติ นักมวยรายนี้เป็นนักมวยที่หมัดหน้ายาว และรูปร่างสูงกว่าเรา ผมยังเชื่อว่าถ้าเราไม่ประมาท อย่างน่าจะผ่านนักมวยรายนี้ได้ ขณะที่เรื่องของการตัดสิน ผมไม่กังวลนะครับ เพราะไอโอซีเข้ามาดูด้วย ก็ยังเชื่อมั่นและมั่นใจในเรื่องการตัดสิน ว่าจะออกมาเป็นธรรม“

เฟี้ยว ไม่พลาดฉลุยเข้า 16 คน

ต่อที่ รุ่น 80 กิโลกรัมชาย “ซีเกมส์” วีระพล จงจอหอ ดวลกับ คริสเตียน ซาเวียร์ ปินาเลส จากโดมินิกัน 

 เริ่มยกแรกวีระพลเดินเข้าหาทันที โดยมีแย็บซ้ายนำ ขณะที่นักชกโดมินิกันใช้ความเร็วคอยโยกหลบและหาโอกาสดักต่อยจังหวะสอง ซึ่งได้ผล จบยกแรกคะแนนเป็นของ ปินาเลส

ยกสอง ปินาเลส ยังคงอาศัยชั้นเชิง และความเร็วคอยดักต่อย ขณะที่ วีระพล พยายามเดินเข้าใส่ แต่ก็ต้องคอยระวังหมัดที่คู่ชกปล่อยสวนกลับมาด้วยเหมือนกัน จบยก 2 คะแนนยังเป็นของ ปินาเลส

เข้าสู่ยกสุดท้าย วีระพลที่ต้องเดินหน้าลุย กลายเป็นเข้าทาง ปินาเลส ที่ยังใช้ชั้นเชิงหลบหมัด และดักต่อยได้อย่างแม่นยำ ครบ 3 ยก กรรมการให้ ปินาเลส ชนะ วีระพล 5-0 เสียง ส่งผลให้นักชกไทย จอดเพียงรอบแรกอย่างน่าเสียดาย  

 หลังการชก “เจ้าเกมส์” วีระพล จงจอหอ นักชกวัย 23 ปี จากบุรีรัมย์ หลานชายของสมจิตร จงจอหอ อดีตฮีโร่เหรียญทอง โอลิมปิก 2008 ออกมาเปิดใจยอมรับว่า ตามที่วางแผนกันไว้ คือตั้งใจจะดักต่อยและดึงจังหวะ แต่พอขึ้นไปต่อยจริงแล้ว พอเราออกหมัดแย็บไปแล้ว ดึงจังหวะกลับไม่ทัน เพราะเขาเร็วกว่าเรา ซึ่งก็เร็วกว่าตน 1 จังหวะ เกมการชกเป็นรอง

“ที่ผ่านมาก็พยามทำการบ้านมาโดยตลอด ศึกษาฟอร์มการชกของเขา ดูว่าต่อยอย่างไร และต้องแก้ทางอย่างไร ซึ่งที่วางเอาไว้คือพยายามไม่เข้าไปแลก เพราะเขาเป็นนักกีฬาที่มักจะเอาชนะนักมวยที่เดินเข้าหาจึงแก้ด้วยการดักต่อย ส่วนหลังจบยกสองที่คะแนนเป็นรอง ก็พยายามเดินหน้าเข้าหานายกสาม เพื่อหาจังหวะบวกแลก โดยส่วนตัวพอใจฟอร์มตัวเอง แต่เมื่อเทียบกับระดับนานาชาติ ยังถือว่าไม่ดีพอครับ ก็ยังอยากสู้ต่อครับ กลับไปจะพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีมากขึ้นกว่านี้“

บทความก่อนหน้านี้สู้ไม่ถอย! ก้องศึก ต้อนแต้ม โจอาคิม ชนะต่างชาติรายแรก ในศึก ONE ลุมพินี 72
บทความถัดไปโค้ชวิจารณ์ รับเริ่มกังวลการให้คะแนนกรรมการ – กำชับกำปั้นไทย ต่อยให้ชัดขึ้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่