“เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม” นักสู้สาวจอมบู๊วัย 21 ปี ไม่ทำให้แฟนกีฬาต่อสู้ชาวไทยต้องผิดหวัง หลังพิชิตชัยเหนือ “อนิสสา เม็กเซน” สาวแกร่งมากประสบการณ์วัย 35 ปี จากฝรั่งเศส-แอลจีเรีย ไปแบบสุดมัน คว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต เฉพาะกาล (105 – 115 ป.) มาครอบครองได้สำเร็จ ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับไฟต์นี้นับว่าเป็นการเปิดซิงในกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในชีวิตของ “เพชรจีจ้า” ทำให้เธอต้องมุ่งมั่นในการฝึกซ้อมและทำการบ้านมากกว่าครั้งไหน ๆ โดยเฉพาะการที่ได้เผชิญหน้ากับสาวแกร่งแรงเยี่ยงชายอย่าง “อนิสสา” มีดีกรีแชมป์โลกทั้งคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยหลายสมัยติดปลายนวม
“หนูคิดว่ากติกานี้ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะว่าไม่มีศอก ไม่มีจับแทงเข่า หรือว่าปล้ำวงใน และต้องใช้เท้าให้รวดเร็ว การออกอาวุธต้องเร็ว แรง และหนักด้วย ก็ถือว่าพื้นฐานยากกว่ามวยไทยค่ะ”
“ไฟต์นี้การฝึกซ้อมแต่ละวัน หนูก็เหนื่อยมาก ๆ ต้องซ้อมให้หนักกว่าที่ผ่านมา เพราะ อนิสสา เป็นมวยที่แข็งแกร่งมาก หุ่นเขาเหมือนผู้ชายเลยค่ะ มีกล้ามเนื้อที่ดี แล้วก็เป็นมวยที่รวดเร็ว ถ้าหนูฝึกซ้อมไม่ถึงหนูก็แพ้เขาได้ หรืออาจจะโดนเขาชกร่วงได้ค่ะ”
ด้าน “เพชรจีจ้า” ยอมรับว่าช่วงแรก ๆ ของเกมเธอยังรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ เพราะฝ่าย “อนิสสา” ยังคงอุบไต๋ไม่ได้แสดงพิษสงที่แท้จริงออกมาให้เห็น กระทั่งยกสาม ความรู้สึกดังกล่าวก็หมดลง ทันทีที่เธอรับรู้ว่าคู่ชกเริ่มออกอาการอ่อนล้าให้เห็น จนเธอสามารถคุมเกมการชกไว้ได้ทั้งหมดและเป็นฝ่ายคว้าชัยไปในที่สุด
“ช่วง 2 ยกแรกหนูก็ยังไม่มั่นใจเท่าไหร่ค่ะ ด้วยความที่ อนิสสา ยังไม่ค่อยออกอาวุธเลยทำให้คิดว่าเขาเก็บทีเด็ดอะไรไว้หรือเปล่า แต่พอยก 3 หนูก็เริ่มมั่นใจแล้วค่ะ เห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มเหนื่อย อาจเป็นเพราะหยุดไปนานด้วย หนูก็เลยพยายามออกอาวุธให้มากขึ้น แต่ก็มีบางจังหวะที่เขาสวนหมัดมาก็หนักเหมือนกัน แต่หนูเก็บอาการได้ค่ะ”
“พอชกเสร็จหนูมั่นใจอยู่แล้วว่าวันนี้ได้ครองแชมป์แน่นอน เพราะตลอดทั้ง 5 ยก เวลาเขาโดนหมัดเขามีอาการให้เห็นชัดเลยค่ะ”
ตลอดระยะเวลา 15 ปี “เพชรจีจ้า” คลุกคลีและเฉิดฉายอยู่แต่บนถนนสายมวยไทย ไฟต์นี้นับว่าเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่ได้ชกคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะภาคภูมิใจกับชัยชนะครั้งนี้ และนับว่าเป็นก้าวแรกแห่งความสำเร็จที่สาวแกร่งจากเมืองระยองรายนี้รอคอยมานาน
“กติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกมีความหมายกับหนูมากค่ะ เพราะตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา หนูชกแต่มวยไทย ไฟต์นี้จึงเป็นไฟต์ที่สำคัญที่สุดในชีวิต และหนูสามารถทำได้คว้าแชมป์โลกมาครองได้ ก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ค่ะ เพราะหนูรอคอยเวลานี้มานานหลายปีแล้วค่ะ”
ถึงเวลานี้ “เพชรจีจ้า” พร้อมแล้วที่จะไล่ล่าความเป็นใหญ่ในรุ่นอะตอมเวต โดยภารกิจต่อไป “เพชรจีจ้า” มองไปที่การขึ้นชิงตำแหน่งกับ “เจเน็ต ทอดด์” เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง ชาวอเมริกัน เพื่อรวบตึงเข็มขัดไว้แต่เพียงผู้เดียว รวมทั้งการท้าชิงกับ “อัลลิเซีย เฮลเลน รอดริเกส” เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย ชาวบราซิล
“สำหรับหนู ไม่ว่าจะชิงแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง หรือว่ามวยไทย ได้หมดเลยค่ะ แต่มวยไทยอาจจะเป็นกติกาที่หนูถนัดกว่าเพราะ มีศอก มีแทงเข่า มีจับวงใน ส่วนคิกบ็อกซิ่งอาจจะต้องกลับไปฝึกซ้อมและพัฒนาฝีมือให้มากขึ้น เรียนรู้กติกาให้มากขึ้น เพราะว่าหนูอาจจะยังมีข้อบกพร่องอีกเยอะ ก็ต้องกลับไปแก้ไขในเรื่องนี้ แต่ถ้ามีโอกาสหนูก็พร้อมที่ชิงทั้งกติกาคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยค่ะ”
ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh