กกท. จัดโปรโมตธุรกิจ- อุตสาหกรรมมวยไทยสู่ชาวโลก

0
351

การกีฬาแห่งประเทศไทย ผนึกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ และ คณะกรรมการกีฬามวย ขานรับนโยบาย Soft Power เดินหน้าโครงการส่งเสริมและเผยแพร่ธุรกิจค่ายมวยไทยและอุตสาหกรรมมวยไทยทั้งในและต่างประเทศ ผ่านกิจกรรม Road Show ครั้งใหญ่ ประเดิมร่วมประกบงานโมโต จีพี ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เผยความสำเร็จต่างชาติให้ความสนใจเกินคาด

 นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ธุรกิจค่ายมวยไทยและอุตสาหกรรมมวยไทยทั้งในและต่างประเทศ ในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ในการผลักดัน Soft Power -5F ของไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จากการเป็นทุนวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างสรรค์สู่สินค้าและบริการที่ได้รับความนิยม โดยมีเป้าหมายสำคัญ ที่จะทำให้ผู้ร่วมงาน Moto GP ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในงานนี้กว่าหนึ่งแสนคน ได้รู้จักค่ายมวยไทย ที่ได้มาตรฐานกว่า 30 แห่ง และสนใจมาฝึกฝนศิลปะมวยในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และยังเป็นการส่งเสริม การท่องเที่ยวเชิงกีฬาไปพร้อมกัน ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับวงการกีฬามวยไทย ภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด 19 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป

กกท. จัดโปรโมตธุรกิจ- อุตสาหกรรมมวยไทยสู่ชาวโลก

 ศิลปะมวยไทยเป็น F-Fighting ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย หนึ่งใน Soft Power 5F ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ นอกเหนือจากอาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) และเทศกาลประเพณีไทย (Festival) ซึ่งจะช่วยสร้างแรงกระตุ้นในแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ทรงพลังในระยะยาว เป็นกลยุทธ์ในการช่วยส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จัก และสร้างรายได้ให้กับธุรกิจค่ายมวยไทยและอุตสาหกรรมมวยไทยให้เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง

 สำหรับกิจกรรม Road Show ครั้งนี้จัดอยู่บนพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร ภายในงานประกอบด้วยการจัดแสดงนิทรรศการมวยไทยในหลากหลายแง่มุมที่น่าสนใจ ครอบคลุมประวัติความเป็นมาของมวยไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความสำเร็จของค่ายมวยไทยที่มีชื่อเสียง ซึ่งได้รับการประเมินผ่านเกณฑ์มาตรฐานกว่า 30 แห่ง การจัดแสดงชีวประวัติและผลงานของปูชนียบุคคลและนักมวยที่มีชื่อเสียงในวงการกีฬามวย ความก้าวหน้าในวงการกีฬามวยไทย และองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรมของมวยไทย รวมถึงศักยภาพและความสามารถของบุคคลในวงการกีฬามวย ร่วมด้วยสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับกีฬามวยไทยจากค่ายมวยต่างๆ ก็ได้ถูกนำมาจัดแสดงภายในงานนี้ด้วย เพื่อตอกย้ำความพร้อมของอุตสาหกรรมกีฬาของไทย ที่มีศักยภาพเพียงพอในการผลักดันธุรกิจมวยไทยไปสู่อุตสาหกรรมกีฬาระดับโลก

 นอกจากการจัดแสดงนิทรรศการในรูปแบบ On site แล้ว ผู้สนใจยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเยี่ยมชมนิทรรศการจากการจำลองรูปแบบงาน Roadshow ในรูปแบบ Virtual Exhibition หรือนิทรรศการเสมือนจริง ระดับ 360 องศา ที่ได้รับการออกแบบอย่างสร้างสรรค์ เสมือนกำลังเดินเยี่ยมชมงาน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

“การสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบไฮบริดที่มีทั้ง Offline และ Online ควบคู่กันไป จะช่วยตอบโจทย์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ช่วยให้ชาวต่างชาติที่สนใจสามารถเข้าชมก่อนเดินทางมาท่องเที่ยว และติดต่อจองการใช้บริการล่วงหน้าได้อย่างง่ายดาย เป็นกิจกรรมที่สร้างเม็ดเงินเข้าประเทศได้อีกทางหนึ่ง นำไปสู่การเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงกีฬาของผู้สนใจเรียนรู้ศิลปะการป้องกันตัวมากขึ้นในอนาคต” นายทนุเกียรติ กล่าวเสริม

อุตสาหกรรมมวยไทยสู่ชาวโลก

ด้าน นายสุระ แสนคำ หรือ “เขาทราย แกแล็คซี่” อดีตยอดมวยแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย ก็เตรียมจัดโครงการสาธิตแข่งขันและสร้างแรงบันดาลใจ และเผยแพร่อนุรักษ์กีฬามวยไทยในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ (Seed Muaythai Fight) เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในนักกีฬาเยาวชนการสาธิตแข่งขันและสร้างแรงบันดาลใจมวยเยาวชน “ศึกเขาทรายสบายมวย” ประจำปี 2565

  โดย “เขาทราย แกแล็คซี่” เผยว่า ตนได้ตระหนักถึงความสำคัญของศิลปะมวยไทยในนักกีฬาเยาวชน ซึ่งสอดคล้องกับการที่สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ร่วมกับสมาคมมวยอาชีพแห่งประเทศไทย มีแผนการจัดกิจกรรมแข่งขันมวยไทยรากหญ้าจากท้องถิ่นสู่ระดับสากล จึงมีความประสงค์จะจัดให้มี โครงการสาธิตแข่งขันและสร้างแรงบันดาลใจ และเผยแพร่อนุรักษ์กีฬามวยไทยในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในนักกีฬาเยาวชนการสาธิตแข่งขันและสร้างแรงบันดาลใจมวยเยาวชน

  พร้อมทั้ง สื่อสารรูปแบบการแข่งขันที่มีมาตรฐานความปลอดภัย การป้องกันความรุนแรงในเยาวชน โดยมีจุดประสงค์ที่จะอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ของไทยควบคู่ไปกับการส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปะมวยไทย สร้างความรู้ความเข้าใจและเผยแพร่หลายในหมู่ประชากรของประเทศ ให้เกิดกลุ่มประชากรกีฬามวยไทยรุ่นใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักเรียน นักศึกษา เยาวชน ประชาชน ทั้งในเมือง และชนบท ปลูกฝังจิตสำนึกให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของสังคมไทยสืบไป

สำหรับโครงการนี้จะใช้เวทีเดียวกับรายการมวยไทยลีก ศึกมวยไทยรากหญ้าสู่สากล เริ่มที่ จังหวัดพัทลุง ที่แรก ในวันที่ 8 ตุลาคม นี้ ต่อด้วยจังหวัดมหาสารคาม วันที่ 22-23 ตุลาคม, จังหวัดชลบุรี 29 ตุลาคม, จังหวัดเชียงราย 13 พฤศจิกายน, จังหวัดอยุธยา 26 พฤศจิกายน และที่การกีฬาแห่งประเทศไทย วันที่ 5 ธันวาคม

บทความก่อนหน้านี้โปรแกรมมวย ศึกเพชรยินดี วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2565
บทความถัดไปโปรแกรมมวย ศึกมวยมันส์วันศุกร์ วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2565

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่