“บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ชุดทำศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 เปิดเผยว่า หลังจากที่ทัพนักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ผ่านมาได้ครึ่งทางของโอลิมปิกเกมส์ ในที่สุดนักกีฬาไทย รวมถึงคนไทยก็ได้สมหวังหลัง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เอาชนะนักมวยตุรกี ที่เป็นเต็ง 1 และเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์รอบก่อน ในการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ ทำให้การันตีมีเหรียญทองแดงในมือแล้วเป็นอย่างน้อย
หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย เผยอีกว่า ต้องขอบคุณคนไทยด้วยที่ติดตาม คอยช่วยกันเชียร์ช่วยกันลุ้น ซึ่งในรายของจันทร์แจ่ม ที่เป็นนักชกไทยเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่นั้น ก็ยังมีโอกาสที่ก้าวเข้าไปหยิบเหรียญเงินหรือเหรียญทองเลย ตนอยากให้ช่วยกันเชียร์และลุ้นให้จันทร์แจ่ม ไปให้ได้ไกลที่สุด
“บิ๊กต้อม” เผยว่า ไม่คิดเหมือนว่าทีมมวยสากล จะต้องลุ้นเหนื่อยในการคว้าเหรียญรางวัลขนาดนี้
หลังผ่านเข้ามารอบสุดท้าย 8 คน เข้ารอบก่อนรองฯ ได้ 3 คน และเหลือ 1 คนที่ได้ไปต่อในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามวยสากลในศึกโอลิมปิกเกมส์รอบนี้ การแข่งขันค่อนข้างเข้มข้น แพ้ชนะกันได้หมด เพราะในแต่ละรุ่นมีแต่ยอดมวยที่ผ่านมา ซึ่งจากที่เห็นการชก รวมถึงได้คุยกับทีมสต๊าฟโค้ช ก็ทำให้ทราบว่าหลายชาติพัฒนารูปแบบและสไตล์การชกขึ้นไปมาก ซึ่งในส่วนของทีมมวยไทยก็เชื่อว่าน่าจะได้เห็นจุดที่ต้องปรับแก้และพัฒนา ทั้งเทคนิคการชก สไตล์การชก รวมไปถึงการให้คะแนนของกรรมการ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำการบ้าน และศึกษามาให้ถี่ถ้วนเพื่อวางแผนในการชก

ด้าน “บิ๊กสุชัย” นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม ประธานที่ปรึกษาสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้ชม “บี” จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง กำปั้นสาวไทย คว้าชัยชนะเหนือ บูเซนาส ซูร์เมเนลี เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2020 ในรุ่น 69 กก. การันตีเหรียญทองแดงมาได้สำเร็จ และในรอบรองชนะเลิศวันที่ 6 สิงหาคมนี้ เวลา 03.34 น. ซึ่งจะพบ ไอมาน คาลิฟ นักชกแอลจีเรีย ซึ่งเป็นรองความแข็งแรง แต่ฟอร์มการชกที่ผ่านรอบ 8 มาได้ เชื่อว่าจะมีโอกาสชนะได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจนักชกไทย หากชนะนักมวยแอลจีเรียได้ ตนจะมอบเงินสดให้ 1 ล้านบาททันทีที่กลับถึงประเทศไทย
ทางด้าน พันตำรวจโท วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนมวยหญิง กล่าวว่า ในช่วงเช้าได้ทำโปรแกรมยืดเส้น จันทร์แจ่ม ภายในหมู่บ้านนักกีฬา ซึ่งไม่มีอาการบอบช้ำหรือบาดเจ็บใด ๆ จากนั้น จะเข้า”ไทยเฮาส์”เพื่อนวดผ่อนคลาย และเข้าตู้ออกซิเจนเพื่อบำบัดฟื้นฟูสภาพร่างกาย และช่วงบ่ายจะซ้อมทวนเชิงด้านเทคนิค โดยจะให้ “บรรจง สินศิริ” และ “วีระพล จงจอหอ” เป็นคู่ ซึ่งจะมีรูปร่างที่สูงกว่าจันทร์เหมือนคู่แข่ง เพื่อเน้นการจู่โจมหมัดแย็ปของนักชกแอลจีเรีย และหมัดฮุกหลังที่อันตราย
“เราจะใช้ความเร็วพิชิตความแข็งแรง แม้จะเป็นรองแต่กำลังใจเราดีมาก ผมยังมั่นใจว่าโอกาสชนะเรายังเปิดกว่า”