การแข่งขันศิลปะป้องกันตัวไฟต์พิเศษ “ซูเปอร์ ไรซิน 38” ที่เมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 ก.ย. คู่ไฮไลต์ของรายการ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ตำนานนักชกเจ้าของสถิติไร้พ่าย 50 ไฟต์ วัย 45 ปี กลับมาขึ้นสังเวียนชกอีกครั้ง พบกับ มิกุรุ อาซากุระ นักสู้เจ้าถิ่นวัย 30 ปี
สำหรับไฟต์นี้ได้รับความสนใจจากแฟนๆ และคนวงการมวยมากมาย โดย “เดอะ แพ็คแมน” แมนนี ปาเกียว คู่ปรับของ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ที่เคยปะทะกันเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2015 ก็เข้ามาชมการชกไฟต์นี้ด้วย
ส่วนการชก ไฟต์นี้ ฟลอยด์ ที่แม้จะอายุมากกว่านักสู้รุ่นน้องถึง 15 ปี ยังคงไว้ลาย และโชว์ความยอดเยี่ยม โดยยกแรกทั้งสองยกเดินวน ดูเชิงกันไปมา ก่อนที่ในยกสอง ช่วง 10 วินาทีสุดท้าย ฟลอยด์ปล่อยหมัดขวาเข้าไปที่ปลายคาง มิกุรุ อย่างจังจนล้มไปกอง ผู้ตัดสินเข้ามาสั่งยุติการแข่งขัน พร้อมกับชูมือให้ ฟลอยด์ ชนะทันที
หลังการชก ยอดกำปั้นชาวอเมริกัน เผยว่า “ผมอยากขอบคุณแฟน ๆ ชาวญี่ปุ่น สำหรับการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม ขอบคุณไรซิน และทีมงานทุกคน ผมมีความสุขที่ได้มอบความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ สำหรับไฟต์นี้ แล้วผมจะกลับมาใหม่”
หลังจากนี้ “เดอะ มันนี” ฟลอยด์ เมย์เวตเธอร์ จูเนียร์ จะมีคิวไปชกไฟต์พิเศษ อีกหนึ่งรายการในเดือน พฤศจิกายน ที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยจะเผชิญหน้ากับ ยูทูบเบอร์ เดจิ
ส่วนก่อนหน้านี้ ที่ ฟลอยด์ ออกมายืนยันว่า ตนมีแผนชกรีแมตช์กับ คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ นักต่อสู้ศิลปะผสมผสาน หรือ เอ็มเอ็มเอ ( MMA)ชาวไอร์แลนด์ ในรูปแบบไฟต์โชว์พิเศษปีหน้านั้น ฝั่งแม็กเกรเกอร์ ที่กำลังบาดเจ็บอยู่ ก็เคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง โดยโพสต์รูปไฟต์ที่ตนเคยชกกับเมย์เวตเธอร์ พร้อมระบุข้อความบรรยายภาพว่า “ไม่สนใจ”
ขณะที่ ดานา ไวต์ ประธาน UFC ที่แม็กเกรเกอร์ เซ็นสัญญาอยู่ด้วย ก็ออกมาค้านการรีแมตช์ไฟต์นี้เช่นกัน สำหรับ เมย์เวตเธอร์ และ แม็กเกรเกอร์ เคยดวลกันมาแล้วเมื่อปี 2017 ซึ่งครั้งนั้น “เดอะ มันนี” เป็นฝ่ายชนะน็อกแม็กเกรเกอร์ในยกที่ 10 โดยครั้งนั้นถือเป็นไฟต์สุดท้ายในการชกอาชีพของ “เดอะ มันนี” อีกด้วย