การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่หางโจว ยิมเนเซียม เมื่อวันที่ 28 กันยายน เป็นการแข่งขันรอบ 16 คนสุดท้าย มีนักชกไทย ลงแข่งขัน 3 รุ่น
โดยคู่แรกในรุ่น 60 กิโลกรัม หญิง “เนย” ธนัญญา สมนึก ที่ต้องพบ ปาซูต ริซา จากฟิลิปปินส์ ปรากฏว่าคู่ต่อสู้ไม่ยอมมาแข่งขัน ทำให้ “เนย” ส้มหล่นผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปแบบไม่ต้องออกแรง
ต่อที่รุ่น 51 กิโลกรัม ชาย “เหลิม” ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด พบ ตู โป เหว่ย จากไต้หวัน โดยตลอด 3 ยก ธติสรรณ์ อาศัยชั้นเชิงที่เหนือกว่า ออกหมัดรวดเร็ว คอยดักต่อยสลับหมัดชุด ก่อนเอาชนะคะแนน 4-1 เสียง ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ เจียง เจียเหมา นักชกเจ้าภาพจีน
หลังการแข่งขัน ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด เผยว่า วันนี้เราแก้เกมมาได้ดี เพราะว่ารอบที่แล้วเขาต่อยเป็นพระเอกเลย แต่รอบนี้เขาดูเหมือนว่าจะมีความเกรงเรานิดหน่อย ซึ่งวันนี้วางแผนไว้ว่าจะต่อยแล้วถอยออก แต่เหมือนเขาอ่านเกมเรามาเหมือนกัน ทำให้ต้องแก้เกมระหว่างชกด้วย ซึ่งก็ผ่านมาได้ ส่วนการเจอกับนักชกจีน เจ้าภาพในรอบหน้า แม้จะยังไม่เคยเจอกัน แต่ไม่ได้กังวล เขาอาจได้เปรียบนิดหน่อยตรงที่เป็นเจ้าภาพ แต่คิดว่าจะเอาชนะได้
สุดท้ายที่รุ่น 71 กิโลกรัม ชาย พีระภัทร เยียะสูงเนิน ลงดวลกับ ตูกูลดูร์ บยัมบัตซอกต์ จากมองโกเลีย ผลปรากฏว่า พีระภัทร พลาดท่า โดนหักแต้มในช่วงยกสอง ทำให้ต้องทำคะแนนจนไปเข้าทางคู่ชก ก่อนสุดท้ายจะแพ้คะแนน 0-5 เสียง ตกรอบเป็นคนที่ 2 ของทัพกำปั้นไทย หลังจากก่อนหน้านี้ “เฟี้ยว”จุฑามาศ จิตรพงษ์ กำปั้นสาวในรุ่น 54 กิโลกรัม ตกรอบไปก่อนในตั้งแต่รอบแรก
หลังการแข่งขัน พีระภัทร ยียะสูงเนิน เผยว่า เสียดาย น่าจะชนะ แต่พอมาโดนตัดแต้มช่วงยกสอง ทำให้ต้องรีบเร่งเอาคืนเลยไปเข้าทางเขา จากนี้คงต้องกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองให้ดีขึ้น
ด้าน พล.ต.ท. ภานุรัตน์ หลักบุญ ผู้จัดการทีมมวยสากลไทย เผยว่า ตอนนี้มวยของเราตกไปแล้ว 2 รุ่น แต่ยังเหลืออีก 9 รุ่นให้ได้ลุ้น ซึ่งจากการติดตามเฝ้าดูการฝึกซ้อมของนักกีฬาตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามั่นใจว่า มวยสากล จะมีเหรียญ และได้ที่นั่งไปโอลิมปิกเกมส์ แน่นอน
