ความเคลื่อนไหวการแข่งขัน ONE 167 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในวันที่ 8 มิ.ย.67 คู่เอกเป็นการป้องกันแชมป์โลก มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก มีคิวขึ้นสังเวียนพบกับ โจ ณัฐวุฒิ ผู้ท้าชิงชาวไทย สำหรับคู่นี้เป็นการรีแมตช์ หลัง หนก่อนเจอกันในกติกา คิกบ็อกซิ่ง ตะวันฉาย เอาชนะไปได้ เมื่อ 6 ต.ค.ปีก่อน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ค.67 ที่ค่ายมวย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ได้เปิดให้สื่อมวลชน เข้าชมการฝึกซ้อมของ ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย และสอบถามถึงความพร้อมของแมตช์สำคัญดังกล่าว
โดย ตะวันฉาย เผยว่า สภาพร่างกายถึงตอนนี้พร้อมกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไฟต์ที่แล้วเจอกับเขาในกติกาคิกบ็อกซิ่ง มาไฟต์นี้ต่อยในกติกามวยไทยที่ถนัด มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ไฟต์ที่แล้ว”พี่โจ” เป็นคู่ชกที่ออกหมัดชุดได้ดี ยอมรับว่าประมาทไปหน่อย ส่วนภาพที่ออกมาว่าถูกเตะเข้าที่น่องขาจนเป็นแผลแดง แต่จริงๆแล้วไม่ได้เจ็บอะไร เพียงแต่ที่มันแดงเพราะผิวขาวจึงทำให้แดงง่ายเท่านั้น แต่ไม่ได้ช้ำจนเดินไม่ได้ ไฟต์นี้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ ส่วนรูปแบบการชกจะเป็นแบบไหนก็ขอให้ดูบนเวที
ต่อคำถามสื่อมวลชน ประเด็นที่สังเกตว่าตัวใหญ่และหนาขึ้น มีปัญหาเรื่องน้ำหนัหรือไม่ และในอนาคตมีแผนจะขยับรุ่นขึ้นไปหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตะวันฉาย กล่าวว่า “ตอนนี้เรื่องน้ำหนักยังเกินอยู่นิดน่อย 7-8 กิโลกรัม แต่ไม่มีปัญหาอะไร เป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมาแม้จะหยุดซ้อมแต่ก็ดูแลสภาพร่างกายตัวเองอยู่เสมอ ในอนาคตคิดว่าจะใหญ่ขึ้นไปอีก แต่ก็จะชกในรุ่นนี้ต่อไปนั่นคือ 70 กิโลกรัม”
“ฝากไปถึงพี่โจนะครับ ไฟต์ที่แล้วบอกซ้อมมา 3 วัน ไฟต์นี้ก็ซ้อมมาเยอะๆนะครับพี่”
“อย่างไรก็ตามหากผ่านไฟต์นี้ไปได้ ส่วนตัวมองไปที่การล่าแชมป์คิกบ็อกซิ่ง ซึ่งแน่นอนอาจจะต้องเจอกับ ชิงกิซ อัลลาซอฟ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ซึ่งในมวยไทยไม่กลัวใคร ใครจะมาเจอก็ต้อนรับเสมอ ความฝันต่อไปคือการได้เป็นแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่ง ไม่ว่าใครจะบอกว่าผมต่อยไม่ได้ สู้ไม่ได้ ยังไงก็จะยืนหยัดชกคว้าแชมป์ให้ได้ เชื่อว่าถ้าให้เวลาก็สามารถทำได้ดี”