การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค.64 มีนักกีฬาไทยลงแข่งขันในรุ่นฟลายเวต (51 กิโลกรัมหญิง) รอบ 32 คนสุดท้าย “น้องเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ พบกับ รูเมซา บูอาลัม จากแอลจีเรีย
ซึ่งผลการแข่งขันก็ปรากฏว่า จุฑามาศ สามารถคุมจังหวะการชกไว้ได้แบบยอดเยี่ยม ดักจังหวะต่อยได้สวยๆ หลายครั้งใน 2 ยกแรก แม้ยกสุดท้าย บูอาลัม จะยายามลุยเข้าใส่ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรนักชกสาวไทยได้ แถมยังเจอดักแย็บซ้ายอยู่เป็นระยะ
และเมื่อชกกันครบ 3 ยก กรรมการทั้ง 5 คน รวมคะแนน และชูมือให้ จุฑามาศ เป็นฝ่ายชนะ บูอาลัม แบบเอกฉันท์ 5-0 ผ่านเข้าไปสู่รอบ 16 คนสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะไปเจอกับ ไอริช แมกโน่ นักชกสาวจากฟิลิปปินส์
เจ้าเฟี้ยว นับเป็นนักชกรายที่ 3 ต่อจาก ใบสน มณีก้อน และ ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี ที่ผ่านเข้ารอบ 16 คนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่ง จุฑามาศ ได้โควต้าใบสุดท้ายมาแข่ง มวยโอลิมปิกครั้งนี้แบบส้มหล่น เพราะโควตานี้มาจากการจัดอันดับ (Ranking) ของคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) แต่เนื่องมาจากการแข่งขัน World Qualify ที่ ฝรั่งเศส ถูกยกเลิกไป ทางคณะกรรมการโอลิมปิคสากล (IOC) จึงใช้การจัดอันดับ (Ranking) แบ่งโควตานักกีฬาให้กับทวีปต่างๆ จึงทำให้กีฬามวยสากลมีนักกีฬาเข้าลุ้นเหรียญเพิ่มอีก 1 คน รวมทั้งนักชกเกาหลีเหนือที่ได้สิทธิ์ขอถอนตัวอีกด้วย ทีมกำปั้นไทยยังเหลือโปรแกรมอีก1คน ได้แก่ รุ่น 60 กก. หญิง รอบ 16 คน สุดาพร สีสอนดี พบ Maria Jose Palacios Espinoza (เอกวาดอร์) ในวันที่ 27 กรกฎาคม 64 เวลา 13.39 น.
ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เพิ่มเติม
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมทาง เพจR1Fight
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมทาง Youtube
