การแข่งขันมวยสากลโอลิมปิกเกมส์ 2024 รอบคัดเลือก เลกแรก “World Qualifying Olympic Tournament 2024” ที่บุสโต อาซิซิโอ ประเทศอิตาลี
ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 8 มี.ค. เหลือนักชกไทยขึ้นสังเวียนรอบ 16 คนสุดท้ายเพียง 2 คน เริ่มที่รุ่น 54 กก. หญิง “เจ้าเฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ พบ ฮาราดะ มิโกโตะ จาก ญี่ปุ่น โดยตลอดการชกทั้ง 3 ยก นักชกสาวแดนปลาดิบเป็นฝ่ายเดินรุกไล่แต่ เจ้าเฟี้ยว อาศัยการดักต่อยตัดลำตัวสลับใบหน้าได้อย่างแม่นยำกว่า ทั้งยังได้จิ้มหมัดเข้าเต็มหน้า มิโกโตะ ได้นับ 8 ในยกแรก ครบยกเป็นฝ่ายชนะไป 5-0 ผ่านเข้ารอบ 8 คนพบกับ เชรา แม พาทริซิโอ จากสหรัฐฯ ซึ่งหาก จุฑามาศ เอาชนะได้ก็จะคว้าตั๋วไป “ปารีสเกมส์ 2024” ทันที
หลังแข่งขัน “จุฑามาศ” เผยว่า ตอนแรกรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยเพราะไม่เคยเจอกันมาก่อน คลิปการชกล่าสุดก็ไม่มี ที่เห็นเป็นคลิปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ไม่รู้ว่าเขามีการพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหน พอยกแรกจิ้มเข้าที่หน้าอย่างจังจนได้นับ 8 ทำให้เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น รอบหน้าเจอกับนักชกสหรัฐฯ ไม่กดดันทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเหมือนทุกนัดไปศึกษาการชกของเขามาแล้วเป็นมวยอาชีพที่เดินไล่บี้เชื่อว่าความเร็วตนดีกว่าและสู้ได้ขอกำลังใจจากแฟนมวยด้วยสัญญาจะคว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้
ปิดท้ายที่รุ่น 92 กก. ชาย “เจ้ายักษ์” จักรพงศ์ ยมโคตร พบ มาโกเมดอฟ ซาดัม จาก เซอร์เบีย ยกแรก เจ้ายักษ์ ไม่แลกด้วยดักต่อยลำตัวแล้วฉากออกทำคะแนนนำก่อน 4-1 แต่ยก 2-3 นักชกเซอร์เบียชวนทะเลาะไม่เลิกไล่บี้ เจ้ายักษ์ อย่างหนักจนหนีไม่ออกทำให้ต้องปักหลักแลกหมัดกัน สุดท้ายเป็น มาโกเมดอฟ ซาดัม ที่แม่นยำและหนักหน่วงกว่าเอาชนะไปได้ 5-0 ส่งผลให้ จักรพงษ์ ยมโคตร ร่วงตกรอบ 16 คนอย่างน่าเสียดาย
หลังการชก จักรพงษ์ เผยว่า ยอมรับว่าเสียดายมากยกแรกทำคะแนนนำ แต่ยก 2-3 ตนหนีไม่ออกเขาเดินบี้อย่างหนัก ประกอบกับตนเพิ่งหายจากการผ่าตัดหัวไหล่กลับมาซ้อมเมื่อช่วงที่มาเก็บตัวต่างประเทศ ทำให้ฟิตไม่พอมาเจอคู่ชกที่เดินเบียดหนักๆ ทำให้หนีไม่ออกกลับไปต้องเรงเพิ่มกล้ามเนื้อเพราะตนเป็นมวยเวต 80 กก.มาชก 92 กก. ทำให้เล็กไปหน่อย แต่เลกสุดท้ายที่ไทยยังมั่นใจมีลุ้นแน่นอนครับฝากทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วย
