การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่หางโจว ยิมเนเซียม เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 กันยายน มีนักชกไทยลงทำการแข่งขัน 3 รุ่น
โดยในช่วงบ่าย นักชกไทยขึ้นสังเวียน 1 รุ่นคือ รุ่น 57 ก.ก. หญิง รอบ 16 คนสุดท้าย “จูน” พรทิพย์ บัวป่า นักชกสาววัย 22 ปี จากอุดรธานี ต้อนเอาชนะ ชานดรากาล่า ธาพา จากเนปาล ไปไม่ยากเย็น 5-0 เสียง 30-26 ทั้ง 5 เสียง ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ หลิน ยู่ ติง จากไต้หวัน ที่เอาชนะ เนสธี เปเตซิโอ จากฟิลิปปินส์ 4-1 เสียง ซึ่งถือเป็นงานหนักทีเดียวเนื่องจาก สาวไทย เสียเปรียบช่วงชกอย่างชัดเจน
จากนั้นช่วงเย็น รอบก่อนรองชนะเลิศ รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 50 กิโลกรัม หญิง “หวาน” จุฑามาศ รักสัตย์ นักชกสาวไทย ดวลกับ รูฮาฟโซ ฮาคนาซาโรว่า จากทาจิกิสถาน
ปรากฎว่านักชกสาวจากนครราชสีมา ไม่ทำให้แฟนๆชาวไทยผิดหวัง ด้วยการเอาชนะ ฮาคนาซาโรว่า ไปแบบเอกฉันท์ 5-0 เสียง 30-26, 30-26, 30-25, 30-26 และ 30-26 ส่งผลให้ จุฑามาศ ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และการันตีมีเหรียญทองแดงติดมือแน่นอนแล้ว พร้อมได้รับโควต้าโอลิมปิก เกมส์ 2024 อีกด้วย
หลังจบการแข่งขัน “หวาน” จุฑามาศ รักสัตย์ เผยว่า “เอเชียนเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของตัวเองแล้ว ดีใจมากที่ได้ตั๋วโอลิมปิกด้วย การชกวันนี้ถือว่าทำได้ตามแผน แก้เกมกันมาดี ทำให้ผ่านเข้ารอบมาได้ รอบนี้ไม่กดดันเท่ารอบก่อนหน้านี้ที่เจอนักชกญี่ปุ่น เหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2020 แต่ก็ไม่ได้ประมาท คู่แข่งรอบหน้าไม่ว่าเจอใครก็ไม่ประมาทเช่นกัน”
“ฝากบอกพ่อกับแม่ว่าได้ไปโอลิมปิกแล้ว และมีเหรียญทองแดงแล้ว จะพยายามไปให้ถึงเหรียญทองให้ได้” จุฑามาศกล่าว
ด้านรุ่น 80 กก.ชาย รอบสอง วีระพล จงจอหอ นักชกไทย ที่ได้บายมาในรอบแรก มารอบนี้ใช้เวลาแค่ 47 วินาที ชนะอาร์เอสซี อิสเซอิ อาราโมโตะ จากญี่ปุ่น ในยกแรก ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศไปแบบไม่ยากเย็น เข้าไปพบกับอูเมียร์ เฟลิกซ์ มาร์เซียล จากฟิลิปปินส์
สำหรับนักมวยชาย ต้องเข้าชิงเป็นอย่างน้อยจึงจะคว้าโควตาไป โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ส่วนนักมวยหญิง ต้องได้เข้ารอบ 4 คนสุดท้าย เป็นอย่างน้อย ยกเว้นรุ่น เวลเตอร์เวต 66 ก.ก. และมิดเดิลเวต 75 ก.ก. หญิง ที่เอาแค่ 2 โควตา ต้องเข้าชิงชนะเลิศเป็นอย่างน้อย
